คัมภีร์ ซ้อมดนตรี อย่างโปร

แน่นอนว่านักดนตรีมือโปรหรือมือสมัครเล่น ต่างก็ต้องเคยซ้อมวงกันมาแล้วทั้งนั้น 

การซ้อมดนตรีก็เหมือนการได้ปลดปล่อย ได้ปล่อยของ เอาไอเดียร์มาแชร์กัน 

ไม่ว่าคุณจะซ้อมกันเล่นๆสนุกๆ เล่นเพลง cover  ซ้อมเพื่อเขียนเพลงใหม่ ซ้อมเตรียมโชว์ หรือซ้อมเล่นอาชีพ ต่างก็ต้องการให้การซ้อมนั้นลุล่วง ไม่ล่มกันทั้งนั้น เพราะไหนจะค่าห้องซ้อมที่ต้องจ่าย เวลาที่เสียไปในการแกะเพลง และเวลาที่ใช้ซ้อมอีกหลายชั่วโมง

❝ คัมภีร์นี้ ที่จะช่วยให้การซ้อมวงของคุณเหมือนมือโปร  ❞

สื่อสารกันในวง

• คุยกันภายในวงให้เยอะ อาจจะใช้การสร้าง group ใน facbook หรือ line ก็ได้  นัดกันให้ดีวันไหนว่างไม่ว่าง 
• นัดเจอกันนอกรอบบ้าง  แบบไม่ต้องซ้อม   ให้ได้พูดคุยกันบ้าง ปัญหาส่วนใหญ่มาจากการไม่ค่อยได้คุยกัน
• ใช้ google calendarให้เป็นประโยชน์ ลงคิวงานส่วนตัวไว้ให้ครบ เวลานัดซ้อมจะได้ส่งให้เพื่อนๆ ดูคิวได้ง่าย ทั้งยังเป็นการ manage ตัวเองได้อีกด้วย 
• ส่งเมล์นัดซ้อมพร้อมข้อมูลห้องซ้อม เวลาที่จองห้อง การเดินทาง ที่จอดรถ ไว้ยืนยัน กันลืมกันได้อีก

วางแผนการซ้อม

อย่างแรกต้องตอบคำถามให้ได้ว่าอะไรคือสาเหตุของการซ้อม เพื่อหาไอเดียสำหรับการเขียนเพลงใหม่ของวง เพื่อคัฟเวอร์ให้เป็นในแนวทางตัวเอง หรือซ้อมเพื่อเตรียมการแสดงที่ต้อง Run Through คุณก็ต้องวางแผนให้ดี

ส่งเพลงให้ก่อน

ไม่ว่าจะเล่นเพลง cover หรือเล่นเหมือนต้นฉบับ เราควรที่จะส่งเพลงที่จะเล่นให้กับทุกคนในวงได้ฟังก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจตรงกันว่าเล่นเพลงเวอร์ชั่นไหน เพราะหลายครั้งที่ส่งแต่ชื่อเพลง แล้วไปแกะกันคนละเวอร์ชั่น  บางคนไปแกะต้นฉบับ บางคนไปแกะ cover บางคนไปแกะเวอร์ชั่น live งงกันไปหมด

แกะเพลง

แกะเพลงที่จะเล่นแต่เนิ่นๆ จะได้รู้ว่า แกะได้มั้ย เล่นไหวมั้ย  เพื่อนๆในวงจะได้เปลี่ยนทัน ถ้าแกะมาไม่ดีไปตายในห้องซ้อม เพื่อนก็เดือดซะเปล่าๆ

กะก่อนได้เปรียบ  อัด clip แล้วเอาไปโพสใน group เกทับเพื่อนคุยกันสนุกสนาน แถมยังเป็นการกระตุ้นสมาชิกคนอื่นทางอ้อม ให้เริ่มแกะเพลงได้อีก

ซ้อม 200%

ซ้อมให้ได้ 200% เล่นให้คล่อง เพราะเวลาเล่นจริง ไม่ว่าจะความตื่นเต้น ความเหนื่อยล้า ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น จะทำให้เราไม่มีสมาธิ ถ้าเราซ้อมมาดี แข็งแกร่งอยู่แล้ว

จำเพลงไม่ได้ให้จด (วาดภาพ)

ถ้าต้องแกะเพลงใหม่เยอะมาก แล้วรู้สึกไม่ไหว ให้เตรียมโน๊ต หรือทางเดินคอร์ดไปด้วย

trick หนึ่งคือจดเป็นสัญลักษณ์ คอร์ดอะไร กี่ห้อง กี่บาร์ ท่อนส่งอะไร ท่อนไหนหยุด ท่อนไหนsolo

ซ้อมให้เหมือนทำงาน

ตั้งใจให้มาก สร้าง Feeling คิดเสมอว่าเรากำลังเล่นร้านหรือเล่นอยู่บนเวทีทุกครั้งที่ซ้อม 

อัดเสียงไว้บ้างนะ

 เป็นการเช็คตัวเองว่าเล่นเป็นยังไงบ้าง  มีส่วนไหนต้องแก้ ต้องปรับ หาจุดบกพร่องให้เจอ แล้ววงจะพัฒนา

Youtube

อัดclip แล้วup youtube ซะ จะได้เห็นกันไปเลยว่า วงเราเวิร์คไม่เวิร์ค ทั้งยังเป็นการโปรโมทวงไปในตัว

สิ่งที่น่าสนใจคือ พอเรามีเป้าหมาย สมาชิกวงจะตั้งใจกันมากขึ้น จากเล่นเพลงoriginal จะกลายเป็น cover หรือแต่งเพลงตัวเอง มีไฟมากขึ้น

แมวมอง เค้าก็มาส่องคุณจาก channel youtubeของวงนั่นแหละ อาจจะได้เซ็นต์ค่าย หรือมีงานจ้างก็ตรงนี้แหละ

ที่แน่ๆ youtube สร้างรายได้ให้วงคุณได้แน่ๆ ถ้าเพลงไม่ติดลิขสิทธิ์นะ

ซ้อมเพลงง่ายๆ

เริ่มซ้อมจากเพลงง่ายๆก่อนทุกครั้ง  เรียกความมั่นใจ บางวงไม่ได้ซ้อมกันนาน มาเจอกันทีก็จะประหม่า ซ้อมเพลงยากเลยอาจตายตั้งแต่แรก เริ่มจากเพลงง่ายๆ ค่อยเป็นค่อยไป เป็นเรื่องที่ดีแน่นอน

ลองจับเวลาดูบ้าง Run Through

แบ่งช่วงเวลาไว้ run-through บ้าง จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วใช้เวลาเท่าไหร่กันแน่ในการเล่นเพลงที่ list มา จะล่มมั้ย เพลงไหนจะตัด เพลงไหนจะเพิ่ม จะเชื่อมเพลงยังไง ทั้งเป็นการซักซ้อม อารมณ์เพลงตลอดการแสดงทั้งหมด และที่แน่นอนก็จะได้รู้ว่าแต่ละคนถึกขนาดไหน นักร้องเสียงหมดมั้ย มือกลองหมดแรงยัง 

มีหัวหน้าวงเถอะ

ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมากๆข้อหนึ่ง หัวหน้าคือ key man ของวงเลย  วงจะไปรอด ไม่รอด ก็คือคนนี้แหละเป็นคนที่คอยจัดการให้วงให้เข้าร่องเข้ารอย เป็นคนไกล่เกลี่ย เป็นคนเชื่อมทุกอย่างให้เป็นวง เพราะเราไม่สามารถเลี่ยงปัญหาในวงได้เลย มีกันทุกวง 

หัวหน้าจึงมีหน้าที่ตัดสินใจ และแก้ปัญหา การที่วงจะมีหัวหน้าที่ดีได้ก็เป็นเรื่องที่ยากพอตัว เพราะคนคนนั้นต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง  เช่น ไม่ลำเอียง เข้าอกเข้าใจคน  มีเป้าหมายแน่นอน สุขุม มีความสามารถในการ organize และ manage ได้ดี พูดแล้วทุกคนฟัง ส่วนมากได้มาจากการโหวต

พักเบรคบ้าง

ทุกการซ้อมควรจัดช่วงเวลาให้ทุกคนได้พักบ้าง เล่นยาวเป็นชั่วโมง คนก็มีล้ากันบ้าง

ข้อดีของการได้พักนิดนึงคือ ร่างกายจะ boost พลังงานมาให้อีกก๊อก หูที่ล้าได้พักแป๊บนึง ร่างกายจะสดชื่นขึ้น

ซ้อมห้องมีกระจก

ถ้าเป็นไปได้ หาห้องซ้อมที่มีกระจก ไว้ให้เราดูตัวเองเวลาซ้อมบ้าง ถ้ายิ่งวงที่ต้องไปเล่นตามงานต่างๆ  การที่เช็ค look เช็คท่าทาง การแต่งตัว eye contact ท่าโยก หรือท่าเต้น(ถ้ามี) จะช่วยให้ภาพรวมของวงดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น

ลด Volume เถอะ

ลดเสียงลงบ้าง เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการซ้อมที่ดังมากเกินไป  จะทำให้คุณล้ามากๆ ลองเบาเสียงลง คุณจะสดชื่นขึ้นเชื่อเถอะ 

แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์  volume เพลงสุดท้ายจะดังกว่าเพลงแรกเสมอ

ตั้งสายก่อน

ตั้งสายก่อนเข้าห้องซ้อมว่าดีแล้ว  การตั้งสายระหว่างซ้อมคือดีที่สุด  ความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิภายนอกกับภายในห้องซ้อม มีผลต่อความโก่งของคอกีต้าร์ ตอนแรกตั้งสายไว้ตรงแล้ว พอเจออากาศเย็นมากๆในห้องซ้อม คอกีต้าร์และเบสจะเปลี่ยนสภาพ (แอ่นมากขึ้น) ทำให้เสียงเพี้ยน (เสียงสูงขึ้น)

Metronome ยังสำคัญเสมอ

ความเป๊ะของจังหวะน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ มือกลองควรมี metronome ติดตัวไปซ้อมทุกครั้ง  เพราะการเร่งจังหวะหรือเพลงช้าลงเล็กน้อย มีผลต่อ feelingของเพลง แถมยังมีผลต่อเพื่อนร่วมวงอีกด้วย เช่นมือกีต้าร์แกะมาความเร็วเท่านี้ว่าเล่นทัน  พอมาซ้อมจริง เร็วชิบ ปั่นไม่ไหว นิ้วล็อคกันไปข้างนึง

เช็คคีย์นักร้องก่อน

บางเพลงก็เสียงสูงเกิน  นักร้องไปโหนอยู่ชั้นสองยังร้องไม่ถึง ดันแล้วดันอีกก็ไม่ถึง สรุปเป็นศพคาห้องซ้อม เรื่องนี้พบได้ประจำ ดังนั้นทำการบ้านกันก่อน ถ้าร้องไม่ไหวรีบบอกเพื่อน ถ้าไม่รู้จะร้องคีย์ไหนดี แนะนำให้เอามือกีต้าร์หรือมือเบสมาเทสเปลี่ยนคีย์ตัวต่อตัวเลย

เพลงไหน Drop บอกก่อน

บางเพลงมือกีต้าร์แกะคีย์ตรงตามเพลง  เล่นแบบ open string พอเปลี่ยนคีย์หน้างานจะต้องมาตั้งสายใหม่ เสียเวลา วิธีแก้ อาจจะต้องเตรียมกีต้าร์มาอีกตัวเพื่อให้การซ้อม smooth

เช็คห้องซ้อมก่อน

ถ้าไม่เคยมาซ้อมห้องนี้เลย ควรศึกษามาก่อนว่าห้องมีอะไรให้บ้าง  อะไรต้องเอามาเองบ้าง หรือพวกAmpใช้อะไร เพราะเราจะไม่ชินซาวด์  กลองที่ห้องซ้อมรุ่นไหน จะได้หาวิธีแก้ปัญหาได้ล่วงหน้า

ทำสมาธิ

ทำสมาธิก่อนทุกครั้ง เป็นเรื่องจำเป็นมากๆ  วิธีทำง่ายๆ เพียงแค่กำหนดลมหายใจ เข้าออกเหมือนที่ครูสอนตอนประถมนั่นแหละ เพื่อทำให้ตัวเองสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ก่อนซ้อม 

ปล่อยของช่วงท้าย

เหลือเวลาช่วงท้ายไว้บ้าง  เอาไว้ปล่อยไอเดีย มีอะไรอยากงัดอยากโชว์ ให้เพื่อนช่วยคิดต่อ ใส่ให้เต็มที่  บางทีช่วงเวลาท้ายๆนี้อาจจะเป็นมีค่ามากที่สุด เพลงดีๆ ไอเดียดีๆ อาจจะมาจากช่วงนี้

มาซ้อมให้ทัน

อีกเรื่องหนึ่งที่โคตรสำคัญ ไม่ควรมาสายเพื่อนรอ การที่คุณเป็นคนตรงต่อเวลา มันจะสร้างความมีวินัยให้กับคุณ ลามไปจนเป็นนิสัย และคุณจะกลายเป็นคนตรงต่อเวลาในทุกๆเรื่อง ซึ่งนั่นเป็นผลดีต่อชีวิตคุณแน่นอน 

ถ้าทำได้ตามนี้ทั้งหมด วงคุณก็จะกลายเป็นมืออาชีพแล้ว