Line 6 DL4 | ยักษ์เขียว ผู้มาก่อนกาล

ถ้าพูดดึงเอฟเฟ็ก Delay คงไม่มีใครไม่รู้จัก Line 6 DL4 Delay Modeler เจ้าก้อนเขียวทรงโต ผู้มาก่อนกาล DL4 เป็น Inspire ให้กับเอฟเฟคมากมายในปัจจุบัน แนวคิดของก้อนนี้มันผ่านเวลามา 20 กว่าปีแล้ว และก็ยังครองใจคนมากมาย มันดีมากจริงๆ
ถ้าคุณมองหา Delay ที่ให้เสียงหลากหลาย ถ้าคุณมองหา Tap Tempo ถ้าคุณชอบการหมุนปุ่ม Feedback ถ้าคุณชอบเสียงที่แทบจะอนาล็อก หากคุณเป็นคนเท้าหนัก และชอบเหยียบแบบรุนแรง ถ้าคุณหลงใหลซาวด์แปลกๆ ที่ Delay สมัยใหม่ทำไม่ได้ เจ้า DL4 คือคำตอบ
เอฟเฟ็ก Digital ของคนรัก Analog
ย้อนกลับไปต้นยุค 2000 Line 6 ได้เปิดตัว DL4 พร้อมกับเพื่อนๆอีกกลุ่มใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น FM4, MM4, AM4 และอีกหลายตัว ช่วงหลังการเปิดตัวไม่นาน ผู้คนต่างขนานนามว่า Big Green Monster ถือเป็นรุ่นแรกของเอฟเฟ็ก Lot นั้น
DL4 เป็นเอฟเฟ็กดิจิทัล มีความเรียบง่ายแบบอะนาล็อก แทนที่จะใช้หน้าจอ LCD แล้วเปิด menu ไป setting ค่าต่างๆ ลึกๆ หลายขั้นตอน แต่กลับทำปุ่มหมุนแบบเลือกโหมด 16 ตำแหน่ง มันเข้าใจง่ายแบบตรงไปตรงมาพร้อมปุ่มปรับเสียงอีก 5 ปุ่ม และมี Footswitch แบบอะนาล็อกให้เหยียบถึง 4 ปุ่ม ทุกอย่างเรียบง่าย Simple และทรงพลัง

ยักษ์เขียวทรงพลัง
Line 6 DL4 เป็น Stompbox แบบ Old School ที่ประกอบด้วย Digital Model แบบ true-stereo 24 bit แบบเดียวกับ TC Electronic 2290, Roland RE-101 Space Echo, Electro-Harmonix Deluxe Memory Man และ Maestro EP-1 Echoplex นอกจากนั้น DL4 ยังมีอัลกอริธึมเอฟเฟกต์ในแบบของ Line 6 เอง ซึ่งหลายตัวกลายเป็นตำนาน เช่น Auto-Volume Echo และ Reverse Delay
หนึ่งใน Delay ที่คนใช้บ่อยที่สุดคือโหมด Rhythmic Delay ซึ่งให้เอฟเฟกต์ Repeat Delay แบบ Edge ที่มีจังหวะกระชับ และเพอร์คัสชันที่เลือก Time Subdivisions ได้ Ping Pong Delay ที่เสียงเด้งติดหู
DL4 ยังมีปุ่ม Tweak และ Tweez ซึ่งช่วยให้คุณปรับ Modulation, Distortion และลักษณะของเทปได้ (tape-artifact characteristics) ซึ่งขึ้นอยู่ Mode Delay ที่คุณใช้ DL4 ยังมี Tap Tempo ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนวัตกรรมใหม่มาก เมื่อ 20กว่าปีก่อน
14 วินาที ที่เปลี่ยนโลกดนตรีตลอดกาล
นอกจาก DL4 จะยัดดีเลย์จำนวนมากไว้ในตัวของมันได้แล้ว DL4ยังมาพร้อม Looper 14 วินาที ซึ่งถือเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสมัย นักดนตรีในสมัยนั้นต่างก็ใช้ Looper ของ DL4 เพื่อฝึกซ้อม ไปจนถึงแสดงสด รวมถึงใช้ในการ overdub แบบเรียลไทม์บนเวทีและในสตูดิโอ นอกจากนี้ ยัง Half Speed และ Reverse ซึ่งมันสร้างเสียงได้มากมาย ตามจินตการที่คุณมี ถ้าคุณอยากฟัง DL4 ว่าเล่นยังไงให้ฟัง Minus the Bear
DL4 ถูกสร้างอย่างสมบูรณ์แบบ
ในช่วงเวลาของการเปิดตัว DL4 นั้น Line 6 ก็ได้เปิดตัว Digital Amp Modeling ซึ่งเป็นที่โด่งดังอย่างมากทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักในนามว่า POD ซึ่งเป็นนวัตกรรมล้ำยุค: แอมป์กีตาร์จำลองดิจิทัลที่บรรจุอยู่ในโปรเซสเซอร์แบบพกพาซึ่งก็ยังใช้ได้ดี เสียงก็ยังดีมากแม้จะผ่านมา 25ปีแล้วก็เถอะ
DL4 เกิดจากแนวคิดที่ต้องการสร้าง Delay Modeler ในรูปแบบ Delay 4 ปุ่มในก้อนเดียว คล้าย BOSS CE-1 แบบวินเทจ โดยถูกคิดขึ้นจาก Greg Westall, Jeff Slingluff และ Patrick O’Connor
ทีมวิศวกรรมที่ทำโปรเจ็คนี้ประกอบด้วย Michel Doidic, Nigel Redmon และ Jeff Slingluff โดย Jeff Slingluff ได้รับหน้าที่ในการออกแบบเสียงของ DL4 แทบจะทั้งหมด ทางด้าน Lucian Tu รับผิดชอบในการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก และ Feeling ในการเหยียบ และ Jeorge Tripps (ผู้สร้างชื่อเสียงให้กับ Way Huge) เข้ามาร่วมทีมในปี 1998 เพื่อมาบริหารโปรเจ็คนี้โดย Jeorge ได้เป็นคน implement built-in tap tempo ใน DL4 แล้วก็ยังสนับสนุนให้มีฟังก์ชัน Looper อีกด้วย
มือกีตาร์ระดับโลกที่ใช้ DL4
มือกีตาร์มากมายต่างก็เคยใช้ DL4 และหลายคนยังคงมี DL4 อยู่บน Board จนถึงทุกวันนี้ List รายชื่อนักดนตรีชื่อดังที่เคยใช้และยังใช้ DL4 อยู่
- Dave Grohl
- John Frusciante
- Thom Yorke
- Noel Gallagher
- Mike McCready
- Stone Gossard
- Les Claypool
- Ed O’Brien
- Buckethead
- St. Vincent
- Brent Hinds
- John Scofield
- Kenny Wayne Shepherd
- Peter Buck
- Alex Skolnick
- Ace Frehley
- Joe Perry
- Yvette Young
- Scott Holiday
ศิลปินหลายคนค้นพบการใช้งาน DL4 ที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ เช่น Dave Knudson มือกีตาร์ของวงอินดี้ร็อก Minus the Bear ได้นำ DL4 จำนวน 4 ตัวมาใช้งานเพื่อสร้างเสียงที่ติดหูและผสมผสานลูป ซึ่งนับว่าล้ำหน้าในยุคนั้น ไม่ใช่แค่เพียงมือกีตาร์เท่านั้นที่ใช้ DL4 นักดนตรีอินดี้ร็อกอย่าง Andrew Bird เป็นที่รู้จักในการใช้ DL4 เพื่อสร้างลูปไวโอลินที่ยากจะเข้าใจ และ Tyondai Braxton ก็ใช้ DL4 เพื่อสร้างเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ในฐานะสมาชิกวง Battles ซึ่งเป็นวงดนตรีแนวทดลองจากนิวยอร์ก
The DL4 MKii
20กว่าปีถือเป็นระยะเวลาอันยาวนานมาก สำหรับเอฟเฟ็กที่ผลิตขึ้นโดยไม่มีปรับเปลี่ยนอะไร แต่หลังจากที่ DL4 mkii ได้เปิดตัวก็ได้มีการปรับหลายอย่าง โดยที่เสียงและคุณสมบัติต่างๆ ยังเหมือนกับรุ่นดั้งเดิมทั้งหมด แต่มีการเพิ่ม Reverb และ Looper 240 วินาที ซึ่งขยายได้เป็นหลายชั่วโมงผ่านช่องเสียบ microSD คุณสมบัติที่อัปเกรดเพิ่มเติม ได้แก่ อินพุตไมโครโฟน XLR การเชื่อมต่อและการควบคุม MIDI ที่ครอบคลุม บายพาส true/buffered/DSP ที่สลับได้ และ Expression Pedal
