Neck Setup ปรับคอกีตาร์ยังไง

การเซ็ตคอ (Neck Setup) เป็นส่วนที่สำคัญมากๆ เพราะมีความสัมพันธ์กับการ Setup ในส่วนอื่นๆด้วย ถ้าเซ็ตคอไม่ดี การจะเซ็ตในส่วนอื่นๆ ก็ไม่ดีไปด้วย กีตาร์ไม่สมบูรณ์
เป้าหมายเซ็ตคอ
- ต้องการให้สายต่ำลง เล่นง่าย การที่สายจะต่ำลงได้ ต้องเกิดจาก คอที่เหมาะสม
- ต้องการให้สายไม่ Buzz ในกรณีที่สายสูง หรือ Buzz แบบยอมรับได้ ในกรณีที่สายต่ำ
หมายเหตุ Buzzing ในกีตาร์ไฟฟ้า จะมีการ Setup ให้ Buzz นิดๆ (เป็นส่ิงที่ยอมรับได้) ในกรณีที่ผู้เล่นต้องการสายต่ำมากๆ โดยที่เสียง Buzz ไม่ออกแอมป์ หรือไม่ได้ยินผ่านลำโพง
ขั้นตอนการวิเคราะห์ก่อนเซ็ตคอ
ก่อนที่จะเซ็ตคอ คุณต้องรู้ก่อนว่า จะทำอะไรกับคอบ้าง ดังนั้นคุณต้องรู้หลักๆใน 2 เรื่อง
1. คอดีทางอุดมคติ
คอกีตาร์ที่ดีในทางอุดมคติ คือลักษณะที่จะส่งผลดีต่อการเล่น การดีด การสั่นของสาย String Vibration
คอที่ดี คือ คอที่ทำให้สายกีตาร์ Buzzing เท่าๆกัน หรือ ไม่ Buzzing เท่าๆกัน ตั้งแต่เฟรตนอกๆ จนถึงเฟรตในๆ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกดเฟรต 1 ความห่างของสายที่อยู่เหนือเฟรต 2 ต้องมีค่าพอๆกันกับ ความสูงของสายเหนือเฟรต 16 เมื่อกดเฟรต 15 โดยที่ต้องมีค่ามากกว่านิดหน่อย เพราะ Amplitude ของสายมีมากกว่า


ถ้าในกรณี Straight (คอตรง) สายจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ผลที่จะเกิดคือ แรงที่ใช้ในการกดจะมีมากกว่า

ถ้าเอา Saddle ลง เพื่อให้สายต่ำ โดยที่ไม่สนใจเฟรตนอกๆ ผลที่ได้คือ สายจะ Buzzingกระจายในเฟรตนอกๆ

2. คอกีตาร์ของคุณเป็นแบบไหน
คุณต้องดูให้ออกว่า คอกีตาร์ของคุณมีลักษณะไหน กลับไปดูในเรื่อง Neck Evaluation ได้ ถ้ารู้แล้วก็ปรับตามสิ่งที่ควรจะเป็น มาดู concept ในการปรับที่เกิดกับคอ
- Up Bow (คอโก่งมาก) : แก้โดยขัน Truss Rod ตามเข็มนาฬิกา ให้ตึงมือขึ้น คอจะตรงขึ้น
- Back Bow (คอแอ่นไปด้านหลัง ) :
- ถ้าแอ่นจากสาเหตุ Two way Truss Rod ให้คลาย โดยขันทวนเข็มนาฬิกา
- ถ้าแอ่นจากสาเหตุไม้บิดตัว แก้ด้วยการดัดไม้คอให้คืนรูปก่อน ใช้Clampบีบ ดัด
- Hump (คอปูด ไม้บวม) : ให้บาด Fingerboard แล้วใส่เฟรตใหม่ให้ดีก่อน
- Rise in Tongue (คอเชิดขึ้นที่เฟรตลึกๆ) : อาการนี้เกิดขึ้นในกีตาร์โปร่ง แก้โดย Set องศาคอที่ต่อกับ Body ใหม่ เป็นเรื่องธรรมดาเจอได้บ่อย
- Straight (คอตรงเป๊ะ) : คลาย Truss Rod ขันทวนเข็มนาฬิกา
- Controlled Relief (คอโค้งนิดๆ พอดี) : คอโค้งพอดีๆ ไม่ต้องแก้อะไร แค่ปรับให้ Relief ถูกใจมากที่สุด
เมื่อคุณรู้แล้วว่า คอที่ดีคือมี Relief นิดๆ เพราะจะได้เอาสายลงมาต่ำได้ ซึ่งผลที่ได้ตามมาคือ Feel การเล่นจะรู้สึกว่าเล่นง่าย ใช้แรงกดเท่าๆกันทั่วทั้งคอ ถ้ามี Buzzing ก็จะ Buzzing เท่าๆกัน หรือก็ไม่ buzzing เท่าๆกันในทุกๆเฟรต ทีนี้ต้องมาหากันว่าค่า Relief หายังไง
วิธีหาค่า Relief
การหาค่า Relief ที่ควรจะเป็นสามารถทำได้ 2 วิธี
1. หา Neck Relief โดยการเล่น
หา Relief โดยการเล่น เป็นวิธีง่ายที่สุด เล่นที่สาย 3 หรือ 4 ซึ่งจะอยู่กลางคอ อยู่ในเส้นระนาบ เวลาคองอหรือโค้งจะโค้งตรงกลางมากที่สุด ดีดตั้งแต่เฟรต 1 ไปถึงเฟรตท้ายๆ ต้องมีความ Buzz นิดๆเท่าๆกัน
ถ้ากีตาร์ Set Relief ไม่ดี มันจะ Buzz ไม่เท่าๆ กัน อาจจะBuzz เฟรตนอกๆ มากกว่า เฟรตในๆ หรือ Buzz เฟรตในๆ มากกว่าเฟรตนอกๆ
ถ้าเป็นโปร เค้าจะเซ็ต Relief พร้อมกับ Set Bridge ให้ต่ำ เพื่อหาค่า Relief ให้เร็วที่สุด
2. หา Neck Relief โดยการวัด
- ใช้ไม้บรรทัด Notched straight หรือไม้บรรทัด 18 นิ้ว ก็ได้ แล้วหาช่องระหว่างใต้ไม้บรรทัด Notched Straight กับ Finger Board ช่วงเฟรต 6 จนถึงเฟรต 9
- วัดโดยหาระยะห่างของสายกับเฟรต โดยการกดสาย 3 เฟรต 1 อีกมือกดที่สาย 3 เฟรต 17 (กดตำแหน่งเดียวกับ neck joint) แล้วดูระยะสายเหนือเฟรต 6 ถึงเฟรต 9
ค่า Relief ที่ดีของกีตาร์แต่ละตัวต่างกัน เพราะคอให้อาการไม่เหมือนกัน ถ้าคุณทำจนชิน คุณจะเข้าใจว่า กีตาร์ตัวนี้ Relief เท่าไหร่ถึงจะดี แต่ถ้าอยากได้ค่าอ้างอิงตามนี้
ค่า Neck Relief สำหรับอ้างอิง
Guitar = 0.004" - 0.012"
Bass = 0.008" - 0.018"


ความลับเสียงดี
การเซ็ตคอให้มี Relief จะทำให้เสียงดี เกิดจากเวลาที่สายสั่น String Vibration จะเกิด Amplitude ของสาย เป็น Loop ขึ้นลง ไปมา จังหวะที่สายเหวี่ยงขึ้น สายจะตึงที่สุด จังหวะที่สายอยู่ระนาบเดิม จะแรงน้อยสุด


ลักษณะการสั่นแบบนี้ ถ้ามาเจอกับคอที่เซ็ต Relief มาอย่างดี คอเหวี่ยงนิดๆ หรือกระดิกนิดๆ ได้ง่าย (เซ็ตคอแบบอื่น คอกระดิกได้ยากกว่า) การกระดิกนิดๆ สั่นนิดๆ นี้ จะส่งผลให้คอมีการ Generate คลื่นความถึ่ขึ้นมา เรียกกันว่า Overtone โดยความถี่นั้นจะถูกถ่ายทอดส่งผ่าน ไปยังคลื่นเสียง Loop ใหญ่ เรียกว่าการ Carry หรือการขี่กันของคลื่น

การ Carry นี้ไม่ได้เกิดเฉพาะคลื่นเสียง เกิดกับคลื่นทุกชนิด คลื่นเล็ก บนคลื่นใหญ่ในทะเล, คลื่นวิทยุ, คลื่นไมโครเวฟ ฯลฯ
คอที่กระด้าง Straight ไม่ว่าจะเกิดจากการเซ็ต หรือวัสดุคอที่แข็งเกิน จะไม่มี overtone หรือ Overtone น้อยมาก เช่นคอที่มี Carbon Fiber Rod บางชนิด, คอ Carbon Fiber, คอไม้ Rosewood บางชนิด ฯลฯ
กีตาร์ Up bow เป็นคอที่โค้งก็จริง แต่จะไม่สร้าง overtone หรือสร้าง Overtone ได้น้อยมาก เพราะคองอจนถึงขีดสุดแล้ว คอจะแข็งมาก
ถ้ากีตาร์มี Truss Rod ต้องขันให้มันตึง ปล่อยหลวมๆไม่ได้ ถ้าไม่ขัน เสียงที่ได้จะห้วนสั้น เสียงหาย เพราะคอจะแกว่งเกิน และTruss Rodในคอจะซับค่าความถึ่ จนหายไป