Date : 
April 27, 2025

Fujigen Gakki โรงงานกีตาร์ที่ยิ่งใหญ่มากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

Fujigen Gakki

Fujigen Co., Ltd. ตั้งอยู่ที่ Matsumoto-shi, Hirata-e  จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

ชื่อเดิมของ Fujigen คือ Fujigen Gakki (ф ジ ゲ ン 楽 楽 器 器)  ซึ่งมีได้มีการเปลี่ยนเปลี่ยนในเดือนเมษายน 1989

ประวัติศาสตร์ Fujigen ได้เริ่มขึ้น

Fujigen มีความสำคัญอย่างมากในวงการกีตาร์ญี่ปุ่นช่วงปี 1960 เรื่องราวของ Fujigen น่าสนใจอย่างมาก เริ่มขึ้นจาก คุณ Yutaka Mimura เจ้าของร้านจาก Osaka ได้ซื้อ Workshop ไวโอลินแห่งหนึ่งของ Suzuki ในเดือนพฤษภาคม 1960 หลังจากนั้นเขาก็ได้ชวน  Yuichiro Yokouchi เพื่อนสมัยเรียนมหาลัยของเขา ที่ตอนนั้นเลี้ยงวัวและทำฟาร์มอยู่

หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้ตั้งบริษัทผลิตกีตาร์ชื่อ Fujigen เพื่อผลิตเครื่องดนตรี แล้วเรื่องราวทุกอย่างก็เริ่มต้นในช่วงปี 1960 ทั้ง 2 ทำไวโอลินอยู่สักพัก หลังจากที่เขาสำรวจตลาดเครื่องดนตรีแล้ว Fujigen ก็เปลี่ยนมาผลิตกีตาร์โปร่งทันที

รางวัลแรก การันตีฝีมือ

กีตาร์ Fujigen รุ่นแรกมีความสวยงามมากจนได้รับรางวัล Matsumoto Woodworking Festival ในปี 1960 Yuichiro ยังคงศึกษาเกี่ยวกับกีตาร์ต่อไป และใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนมัธยมและสถาบันเทคนิค เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างกีตาร์ 

ในปี 1961 Fujigenได้รับโทรศัพท์จากโรงแรมแห่งหนึ่ง ปลายสายเป็นชายชาวอเมริกันคนหนึ่งที่มาเที่ยวญี่ปุ่นชื่อ Mr. George ต้องการเข้ามาเยี่ยมชมโรงงาน Fujigen เพราะเขาต้องการนำเข้ากีตาร์ไปขายในร้านของเค้าที่อเมริกา

บุคคลสำคัญของ Fujigen

Mr. Anthony George เจ้าของร้านขายเครื่องดนตรีหลายแห่งในนิวยอร์ก อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อช่วยพัฒนากีตาร์โปร่งและกีตาร์ไฟฟ้า แล้ว Fujigen ก็ทำสำเร็จ กีตาร์โปร่งและคลาสสิกรุ่นแรก สามารถส่งไปขายยังอเมริกาได้ ภายใต้ชื่อแบรนด์ St. George  กีตาร์ St. George ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ในปี 1961 Fujigen ยังมุ่งมั่นผลิตกีตาร์โปร่ง และ Classical อย่างต่อเนื่อง ในช่วงนั้น Yuichiro ได้โยกตัวเองมาเริ่มพัฒนากีตาร์ไฟฟ้า 

ในปี 1962 Anthony George ได้กลับมาเยี่ยมชมโรงงานอีกครั้ง และในระหว่างการเยี่ยมชมครั้งนี้ เขาได้ให้คำแนะนำด้านเทคนิคเพิ่มเติมให้กับการผลิตกีตาร์ไฟฟ้า

ประวัติศาสตร์ Fujigen ได้เริ่มขึ้น

ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 กีตาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆ หลายตัวมีปิ๊กอัพที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัทโดยช่างไฟฟ้าในท้องถิ่น ในเวลานั้น บริษัท Fujigen ได้จ้างวิศวกรไฟฟ้า Toshizumi Tezuka ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจซ่อมระบบไฟฟ้าในเมือง Matsumoto และเขาได้ติดตั้งไฟในโรงงานเดิม Toshizumi Tezuka ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบกีตาร์และปิ๊กอัพกีตาร์อเมริกาบางรุ่น รวมถึงกีตาร์ Hollow Body ของ Gibson รุ่นเก่าๆ (น่าจะเป็น Gisbon ES120) และ Fender Stratocaster 

Toshizumi Tezuka ได้รับมอบหมายให้รื้อปิ๊กอัพเพื่อตรวจสอบโครงสร้างและคุณสมบัติของแม่เหล็ก ในเวลาอันสั้น เขาเข้าใจหลักการแม่เหล็กของปิ๊กอัพ ลวด และคุณสมบัติของการพันลวด

คุณ Toshizumi Tezuka และลูกศิษย์ของเขาจะสร้างเครื่องม้วนสายกีตาร์ของตนเองโดยใช้สายพานและมอเตอร์จากเครื่องซักผ้า! 

Pickup กีตาร์รุ่นแรกๆ ของ Fujigen มีลักษณะเหมือน Pickup  American DeArmond Indox โดยมีบริษัทอื่นๆ จัดหาชิ้นส่วนให้ Crome plated ได้จากบริษัท Komatsu Co. ส่วนแผ่น gold mesh foil ได้จาก Miyamoto Works Co.  Pickup รุ่นแรกๆ ถูกใช้กับกีตาร์ Fujigen หลายรุ่นตั้งแต่ปี 1962 

Maxon ได้กำเนิตขึ้นที่นี่

ในช่วงทศวรรษ 1960 ลูกศิษย์คนหนึ่งของ Tezuka ยังสนใจ Pickup กีตาร์เป็นอย่างมาก และได้ออกแบบ Pickup ของตนเอง สุดท้ายเขาได้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ในเมือง Matsumoto บริษัทนั้นมีชื่อว่า Nisshin Onpa หรือที่รู้จักไปทั่วโลกว่า  Maxon

กีตาร์ไฟฟ้า Hollow Body รุ่นแรก

กีตาร์ไฟฟ้า Fujigen รุ่นแรกเป็นแบบ Hollow Body มีชื่อยี่ห้อว่า "Rodeo" และ "Demian" ชื่อ "Demian" ถูกตั้งโดยคุณ Mimura ซึ่งได้รับแรงบรรดาลใจจากนวนิยายของ Herman Hesse กีตาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆ เหล่านี้ถูกนำเข้าไปขายในอเมริกาโดยบริษัท Buegeleisen & Jacobson ซึ่งตั้งอยู่ในนิวยอร์ก

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เองที่บริษัท Teisco ในโตเกียวกำลังเติบโตและกำลังมองหาโรงงาน OEM เพื่อช่วยผลิตกีตาร์ไฟฟ้า และแน่นอน Teisco เลือก Fujigen เป็นผู้ผลิตกีตาร์ไฟฟ้าให้ สำหรับ Lot ใหญ่ๆ  หลังจาก Fujigenผลิตให้เรียบร้อย  แต่มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับกีตาร์ ทำให้ผู้จัดการโรงงาน Fujigen ซึ่งในขณะนั้นคือนาย Tadashi Maruyama ถูกส่งไปที่โตเกียวเพื่อแก้ไขสถานการณ์ แทนที่จะแก้ไขปัญหานี้ คุณ Maruyama กลับไปร่วมหุ้นส่วนเป็น Partner ร่วมกับ Doryu Matsuda ของทาง Teisco และก่อตั้งบริษัทใหม่เพื่อผลิตชิ้นส่วนไม้ทั้งหมดของกีตาร์ Teisco

บริษัทใหม่นี้มีชื่อว่า Teisco Gen Gakki ก่อตั้งขึ้นในเมือง Matsumoto ในเวลาไม่นาน และนาย Maruyama ก็ดึงพนักงานหลายคนออกจาก Fujigen และต่อมา Teisco Gen Gakki ก็ย้ายไปเมือง Toyoshina ที่อยู่ใกล้ๆ 

การก่อตั้ง Teisco Gen Gakki ทำให้คุณ Yuichiro Yokouchi และพนักงานที่เหลือต้องรับบทหนัก หลายคนต้องควบกะ เพราะมี Order ที่ค้างรอส่งค่อนข้างมาก และยังมี Order ใหม่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

Fujigen และ Matsumoku ช่วงเวลาหนึ่ง

ในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดี ในช่วงเวลาเดียวกัน มีโรงงานไม้ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเมือง Matsumoto ที่เพิ่งถูกยกเลิกสัญญาทางการค้าในการผลิตตู้ไม้ ที่ใช้สำหรับเครื่องจักรเย็บผ้าของ Singer   และแน่นอนโรงงานไม้แห่งนี้มีชื่อว่า Matsumoku คุณ Yuichiro Yokouchi เห็นว่าโรงงานแห่งนี้มีอุปกรณ์อบไม้ที่ดีมากๆ แล้วก็ยังมีช่างไม้ฝีมือระดับสูง  นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่คงอยู่ตลอดช่วงทศวรรษ 1960 หลังจากนั้นไม่กี่เดือน เมือง Matsumoto ก็สามารถผลิตกีตาร์ไฟฟ้าหลายพันตัวให้กับโลกได้ ตั้งแต่ปี 1963 ถึงปี 1966 ซึ่งชิ้นส่วนที่เป็นไม้ของกีตาร์ไฟฟ้าของ Fujigen เกือบทั้งหมดผลิตขึ้นที่โรงงาน Matsumoku

ความกล้าหาญของ Yuichiro Yokouchi ในอเมริกา

ในปี 1964 Fujigenได้สร้างโรงงานใหม่ขึ้นมา เพื่อรองรับกับ Order ที่เข้ามาอย่างมาก ในตอนนั้นกีตาร์ Fujigen มีบริษัทส่งออกเป็นตัวเองให้ เช่น Nanyo-Boueki แต่คุณ Yokouchi มีต้องการขายโดยตรงไปยัง Distributor ในอเมริกาเอง เขาตัดสินใจเดินทางไปนิวยอร์กเพียงลำพัง แม้ว่าเขาจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยก็ตาม คุณโยโกอุจิถือกีตาร์ไฟฟ้าใหม่หลายตัว  และออกเดินทางเพื่อไปเยี่ยมตัวแทนจำหน่ายในอเมริกา แต่เขาคาดการผิด เขามีอุปสรรคด้านภาษา หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณ Yokouchi ก็เริ่มท้อใจ เพราะเขาไม่สามารถรับ Order ได้เลย  เขาซึมเศร้า เหนื่อยล้า และคิดถึงบ้าน รเขานั่งลงที่ม้านั่งในสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค

ไม่นานนัก มีสามีภรรยาสูงอายุคู่หนึ่ง เดินเข้ามาทักทาย พวกเขาพยายามสื่อสารกับคุณ Yokouchi  และชวนให้ไปในบ้านของพวกเขา ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน สามีภรรยาผู้ใจดีคู่นั้นก็ได้ช่วยให้คุณ Yokouchi เรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทำให้เขาได้รับ Order จำนวนมาก Order ขนาดใหญ่ครั้งแรกนี้ได้รับมาจาก Manhattan Novelty, Sorkin Music, U.S. Musical Merchandise และบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่ง นอกจากนี้ Fujigen ยังได้เริ่มโฆษณาในนิตยสาร American Music Trades โดยใช้ชื่อแบรนด์ "Demian" ในการทำตลาด

ช่วงที่กระแสกีตาร์กำลังบูม โรงงาน Fujigen และโรงงาน Matsumoku ก็ได้กลายเป็นโรงงานผลิตกีตาร์ชั้นนำของญี่ปุ่น  เริ่มมีการรับจ้างผลิตให้กับบริษัทอื่นๆ สิ่งนี้ทำให้ Fujigen เริ่มวางแผนสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อให้สามารถผลิตตัวและคอกีตาร์เองได้ไม่ต้องพึ่ง Matsumoku

ในปี 1965 การออกแบบของ Fujigen มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และมีกีตาร์จำนวนมากที่ออกจากโรงงาน Fujigen Fujigen เริ่มใช้ปิ๊กอัพที่ผลิตโดย Maxon ซึ่งกลายมาเป็นมาตรฐานสำหรับกีตาร์ไฟฟ้า Fujigen เกือบทั้งหมด

ในปี 1966 การค้าโดยตรงกับ Distributor ในอเมริกาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ Fujigen จึงกลายเป็นบริษัทผลิตกีตาร์รายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น Fujigen ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพเป็นอย่างมาก ได้มีการปรับปรุงเทคนิคในการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน  มีการผลิตกีตาร์ที่เป็นดีไซน์ของตัวเอง รวมถึงกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆ ที่มีวงจร fuzz ในตัว ซึ่งพัฒนาโดย Rihei Takashima ซึ่งเป็นหนึ่งในนักออกแบบเอฟเฟกต์กีตาร์คนแรกๆ ในญี่ปุ่น

คุณ Yokouchi  เล็งเห็นความสามารถของพนักงานอยู่เสมอ จึงทำให้ Fujigen มีช่างทำกีตาร์ฝีมือดีที่สุดในนากาโน บริษัทได้จ้างนักออกแบบกีตาร์ฝีมือเยี่ยมสองคนชื่อ Akio Ushiyama และ Toshihide Ushimaru นอกจากนี้ บริษัท Fujigen ยังมีช่างทำสีกีตาร์ฝีมือเยี่ยมชื่อ Tomohisa Yamazaki อีกด้วย

ยุคเฟื่องฟูใกล้จบลง

ในปี1967 ปริมาณการสั่งซื้อกีตาร์ลดลง นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึง ยุคเฟื่องฟูของกีตาร์กำลังจะหมดลง

ในปี 1969 Fujigen หันมาเน้นการขายในประเทศด้วยแบรนด์ "Greco" ตลาดกีตาร์ไฟฟ้าตกต่ำอย่างรุนแรง 

ในปี1970 Fujigen ก็ได้ยุติการค้ากับ Distributor ในอเมริกา 

ในช่วงต้นทศวรรษที่ 70s Fujigen ได้ผลิตกีตาร์คุณภาพดีหลายรุ่นสำหรับ Kanda Shokai (Greco) ในญี่ปุ่น และ Hoshino Musical Instruments (Ibanez) รวมถึงผลิตกีตาร์เลียนแบบเพื่อการส่งออก 

ตลอดช่วงทศวรรษที่ 70s กีตาร์ Fujigen ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและถูกขนานนามว่าเป็นผู้ผลิตกีตาร์ไฟฟ้าดีที่สุดเจ้าหนึ่งในญี่ปุ่น

Ibanez ตกลงกับ Gibson

ในปี 1977 Gibson ได้ทำข้อตกลงกับ Hoshino Musical Instruments เพื่อจำหน่ายกีตาร์ Copy ของ Gibson ภายใต้แบรนด์ Ibanez ซึ่ง Fujigen ก็ได้รับผลกระทบจากคดีละเมิดลิขสิทธิ์การค้านี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Fujigen ผลิตเครื่องดนตรีที่ขายในญี่ปุ่นให้กับแบรนด์ญี่ปุ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และขายเฉพาะในประเทศเป็นหลัก Gibson จึงไม่สามารถชนะคดีได้ แต่ก็มีการทำข้อตกลงกัน

Fujigen Gakki makersFujigen Gakki – Makers

ผลจากคดีความกีตาร์เลียนแบบ ทำให้เกิดการถกเถียงเชิงศีลธรรมในวงกว้าง หลังจากนั้นการออกแบบกีตาร์ของ Ibanez และ Greco มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร สำหรับ Ibanez คดีครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งการสร้างสรรค์กีตาร์ที่เป็นแบบของตัวเอง ซึ่งในสหรัฐอเมริกา กีตาร์ที่ผลิตก่อนการพิจารณาคดีของ Gibson ถูกเรียกว่า  “Ibanez Lawsuit”  John Scofield นักกีตาร์แจ๊สที่เล่นกีตาร์ของ Ibanez ได้ลบโลโก้ Ibanez ที่หัวออก

ความสัมพันธ์ของ Fujigen Gakki และ Fender Japan ช่วงต้นทศวรรษ 80s

เช่นเดียวกับ Gibson และแบรนด์อื่นๆ Fender ก็ประสบปัญหากับกีตาร์ Copy จากญี่ปุ่น Fender จึงตัดสินใจที่จะผลิตเครื่องดนตรีในญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ของตนเองซะเลย โดยเซ็นสัญญากับบริษัทที่ผลิตกีตาร์เลียนแบบของตัวเองซะเลย

Fender Copy ของ Greco จึงเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ซึ่ง Greco ที่ผลิตโดย Fujigen ได้รับคำชื่นชมจากแบรนด์อเมริกันอย่างมาก ซึ่งทำให้ในปี 1982 Fender จึงได้ก่อตั้ง "Fender Japan Co., Ltd." ขึ้น ซึ่งต่อมา Kanda Shokai เจ้าของ Greco ก็เข้ามาบริหารงานแทน โดยทำหน้าที่กำกับดูแลกระบวนการผลิตกีตาร์ทั้งหมดที่ผลิตโดย Fujigen

Fujigen Gakki ManufacturerFujigen Gakki Manufacturer

ในปี 1983 Fujigen กลายเป็นโรงงานผลิตกีตาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก!  จากการผลิตกีตาร์ให้กับ Fender Japan และ Squier ด้วยเหตุนี้ Fujigen จึงต้องจ้างบริษัทญี่ปุ่นอื่น ๆ ทำหน้าที่บางส่วนในการทำงาน 

ในปี 1985 CBS ขาย Fender ให้กับ Bill Schulz ซึ่งทำให้ทีมเทคนิคจาก Sugi Motoka (ปัจจุบันคือ Sugi Guitars) ถูกซื้อตัวไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะ Setup และสร้างโรงงานแห่งใหม่ในอเมริกา ในระหว่างการสร้างโรงงานแห่งใหม่นั้น ตลอดช่วงปี 1984 ถึง 1987 กีตาร์และเบส Fender หลายรุ่นที่ผลิตในญี่ปุ่นถูกส่งไปขายในอเมริกา และในปี 1986 Fender และ Fujigen ได้ก่อตั้งแบรนด์กีตาร์ใหม่ชื่อ Hartfield

ในปี 1988 Fujigen คืนดีกับ Gibson หลังจากนั้น Fujigen จึงรับผิดชอบในการผลิต Orville by Gibson และ Epiphone ซึ่งเป็นกีตาร์ทรง Original อย่างเป็นทางการของ Gibson 

ในปี 1989 บริษัท Fujigen Gakki ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Fujigen Corporation และในปี 1991 บริษัท Fujigen Hirooka Co., Ltd. ก็ได้ก่อตั้งขึ้น เพื่อนเน้นงานที่เกี่ยวกับการทำสีโดยเฉพาะ

Guitar Brand ที่ Fujigen ผลิตให้

  • Hoshino Musical Instrument (Ibanez) – 1962 – today
    • J. Customer series
    • Prestige series
    • Artist Signatures
  • Fender
    • Fender – 1984 – 1987
    • Fender Japan – 1982 – 1997
    • Squire – 1982 – 1997
    • Fender Mexico – 1987 – 1997 (managed in Mexico plant)
  • Heartfield 1986 – 1993
  • G & L
    • Premium Series
  • Musicman
    • EX series
  • Kanda Shokai
    • Greco – 1960 – 1993
  • Gibson
    • Epiphone Imperial Series – 1988 – 1993
    • Orville by Gibson – 1988 – 1993
  • Tobias – 1988 – 1993
  • Yamaha
  • Shimamura musical instrument – 2001
  • History
  • Cool Z
  • Dean
  • DBZ – 2009
  • Spector
  • Kurosawa Musical Instrument (G-Life) – 2008
  • Matsushita Studio (Seen)
  • Tesco – 1969
  • South Ocean Trade
  • Goya Guitars
  • Tele-Star

โรงงานFujigen ผลิตเบสกีตาร์ให้แบรนด์ต่างๆ

  • Factory and Headquarters (Matsumoto City, Nagano Prefecture) – Production of wooden dashboards for Toyota
  • Omachi Plant (Omachi City, Nagano Prefecture) – Wood Preparation • Manufacture and Mounting of Musical Instruments
  • Hirooka Plant (Shiojiri City, Nagano Prefecture) – Painting
  • Okhotsk Factory (Hokkaido Monbetsu-gun) – Wood / Paint Preparation

ในปี 2024 Fujigen ยังคงสร้างกีตาร์อยู่ โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 3,000 ตัวต่อเดือน ซึ่งรวมกีตาร์คุณภาพสูงอย่าง FGN เองด้วย มีพนักงานอยู่ที่ประมาณ 300 คน ซึ่งแบ่งเป็น 170 คนในการสร้างกีตาร์ และที่เหลือทำส่วนอื่นๆ

FGN Guitars มี Shop ออนไลน์สำหรับขายกีตาร์เป็นของตัวเอง และยังรับออเดอร์สำหรับ Custom Shop อีกด้วย บริษัทไม่ได้จำกัดอยู่แค่การผลิตกีตาร์เท่านั้น แต่ยังผลิตอุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนกลองญี่ปุ่นอีกด้วย มี Custom Shop หลายแห่งในโตเกียว อิเคบุคุโระ และไดคันยามะ ซึ่ง FGN Guitars ให้บริการ และ Service ลูกค้า ทั้งซ่อม และmaintenance รวมถึงรับ Order Custom shop อีกด้วย

Writer

Tar Tungsai
อยู่กับมันให้มากพอ เดี๋ยวคุณก็ทำได้เอง อะไรที่อยู่ใน Tungsai หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณ
linkedin facebook pinterest youtube rss twitter instagram facebook-blank rss-blank linkedin-blank pinterest youtube twitter instagram